การแข่งขันวอลเลย์บอลหญิงชิงแชมป์โลก 2025 (FIVB Women’s World Championship 2025) เดินทางมาถึงรอบ 16 ทีมสุดท้ายแล้ว โดยปีนี้ถือเป็นครั้งประวัติศาสตร์ที่ ประเทศไทยได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ ระหว่างวันที่ 22 สิงหาคม – 7 กันยายน 2568 ซึ่งมีชาติยักษ์ใหญ่ของโลกเข้าร่วมชิงชัยครบถ้วน
การจัดแข่งขันครั้งนี้กระจายไปใน 4 จังหวัดหลัก ได้แก่ กรุงเทพฯ, นครราชสีมา, เชียงใหม่ และภูเก็ต โดยรอบสุดท้ายรวมถึงรอบชิงชนะเลิศจะจัดขึ้นที่ อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก กรุงเทพมหานคร

ความสำคัญของรอบ 16 ทีมสุดท้าย
รอบ 16 ทีมสุดท้าย หรือรอบน็อกเอาต์ ถือเป็นจุดเริ่มต้นของการแข่งขันแบบแพ้ตกรอบทันที ความกดดันและความเข้มข้นจะสูงขึ้นกว่ารอบแบ่งกลุ่ม เนื่องจากทุกทีมต่างต้องการชัยชนะเพื่อเข้าสู่รอบก่อนรองชนะเลิศ
ปีนี้ยังมีหลายคู่ที่น่าสนใจ เช่น เนเธอร์แลนด์ พบ เซอร์เบีย ซึ่งเป็นการเจอกันระหว่างทีมยุโรปชั้นนำ, บราซิล พบ โดมินิกัน ที่เป็นสองทีมจากโซนอเมริกาที่มีเกมบุกดุดัน และที่สำคัญที่สุดคือคู่ ญี่ปุ่น พบ ไทย ที่แฟนลูกยางชาวไทยตั้งตารอ
รายชื่อทีมเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้าย
- กลุ่มเอ: เนเธอร์แลนด์, ไทย
- กลุ่มบี: อิตาลี, เบลเยียม
- กลุ่มซี: บราซิล, ฝรั่งเศส
- กลุ่มดี: สหรัฐอเมริกา, สโลวีเนีย
- กลุ่มอี: ตุรกี, แคนาดา
- กลุ่มเอฟ: โดมินิกัน, จีน
- กลุ่มจี: เยอรมนี, โปแลนด์
- กลุ่มเอช: เซอร์เบีย, ญี่ปุ่น
โปรแกรมการแข่งขันรอบ 16 ทีมสุดท้าย
วันศุกร์ 29 สิงหาคม 2568
- 17.00 น. เนเธอร์แลนด์ พบ เซอร์เบีย
- 20.30 น. ญี่ปุ่น พบ ไทย
วันเสาร์ 30 สิงหาคม 2568
- 17.00 น. อิตาลี พบ เยอรมนี
- 20.30 น. โปแลนด์ พบ เบลเยียม
วันอาทิตย์ 31 สิงหาคม 2568
- 17.00 น. จีน พบ ฝรั่งเศส
- 20.30 น. บราซิล พบ โดมินิกัน
วันจันทร์ 1 กันยายน 2568
- 17.00 น. สหรัฐอเมริกา พบ แคนาดา
- 20.30 น. ตุรกี พบ สโลวีเนีย
สนามแข่งขัน: อินดอร์ สเตเดี้ยม หัวหมาก กรุงเทพฯ

Photo Credit : Thailand Volleyball Association สมาคมกีฬาวอลเลย์บอลแห่งประเทศไทย
ทีมชาติไทยปะทะญี่ปุ่น แมตช์หยุดโลก
หนึ่งในคู่ที่ถูกพูดถึงมากที่สุดคือ ทีมชาติไทย พบ ทีมชาติญี่ปุ่น ซึ่งทั้งสองทีมถือเป็นคู่ปรับเก่าในเวทีเอเชีย การเจอกันแต่ละครั้งเต็มไปด้วยความดุเดือด
- ทีมชาติญี่ปุ่น มีระบบเกมรับเหนียวแน่น เน้นความเร็ว และเป็นทีมอันดับ 1 กลุ่มเอช
- ทีมชาติไทย แม้เข้ารอบมาในฐานะอันดับ 2 กลุ่มเอ แต่แสดงผลงานยอดเยี่ยม และมีผู้เล่นประสบการณ์สูงหลายคน เช่น พรพรรณ เกิดปราชญ์, พิมพิชยา ก๊กรัมย์ และอัจฉราพร คงยศ
แมตช์นี้ถูกยกให้เป็นเกมที่แฟนลูกยางไทยห้ามพลาด เพราะผลการแข่งขันจะเป็นตัวชี้ชะตาว่าทีมชาติไทยจะก้าวสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้หรือไม่
บัตรเข้าชม & ช่องทางการติดตาม
บัตรเข้าชมรอบนี้มีจำหน่ายในระบบออนไลน์ โดยกำหนดให้ 1 ใบต่อการชม 1 คู่เท่านั้น ปรากฏว่า บัตรคู่ ไทย-ญี่ปุ่น หมดเกลี้ยงแล้ว แต่แฟน ๆ ยังสามารถซื้อตั๋วเพื่อชมคู่บิ๊กแมตช์ระดับโลกอื่น ๆ ได้ที่ 👉 Thai Ticket Major
สำหรับผู้ที่ไม่ได้เข้าชมในสนาม จะมีการถ่ายทอดสดผ่านสถานีโทรทัศน์ PPTV และช่องออนไลน์ เพื่อให้แฟนลูกยางทั่วประเทศได้ร่วมเชียร์ไปพร้อมกัน
ความคาดหวังของแฟนลูกยางไทย
การแข่งขันครั้งนี้เป็นมากกว่าการลุ้นผลแพ้ชนะ เพราะเป็นโอกาสที่ทีมชาติไทยจะได้โชว์ศักยภาพต่อหน้ากองเชียร์เจ้าบ้าน หากสามารถเอาชนะญี่ปุ่นได้ ก็จะเป็นอีกหนึ่งหน้าประวัติศาสตร์ในวอลเลย์บอลโลก และเป็นแรงบันดาลใจให้กับเยาวชนไทยที่รักกีฬาลูกยาง